26 อย่างที่ต้องทำเมื่อคุณมีเวลาแค่ 72 ชั่วโมงในโอซาก้า | here Japan
หรือทางผ่านไปเมืองอื่น เช่น โตเกียว หรือฮอกไกโด
แต่ตอนนี้โอซาก้าเติบโตขึ้นเรื่อยๆเพื่อเป็นจุดหมายของนักท่องเที่ยวในปีที่ผ่านๆมา
มีที่ท่องเที่ยวมากมาย เพราะเป็นเมืองที่ใหญ่อันดับสองของญี่ปุ่น
ไม่น่าประหลาดใจเลยที่โอซาก้าจะเป็นที่นิยมกว่าเมืองใกล้เคียง
เฮียใช้เวลา 72 ชั่วโมงที่นั่นซึ่งไม่ใช่เวลามากนัก
วางแผนดูอากาศ ฤดูกาลต่างๆของญี่ปุ่น และงบที่จะต้องเตรียมไปญี่ปุ่นอย่างละเอียด
แต่ถ้าคุณกำลังกังวลเกี่ยวกับข้อจำกัดของเวลา
อย่ากลัวเลย เดี่ยวเฮียพาไป
บทความนี้จะช่วยให้คุณเที่ยวโอซาก้าแบบไม่พลาดสิ่งเด็ดๆ
โดยประกอบไปด้วย สิ่งที่ต้องทำ สิ่งที่ต้องกินเมื่อมาโอซาก้า!
1. คาเฟ่นกฮูก สำหรับแฟนคลับแฮรี่พอตเตอร์ Owl family osaka
เครื่องดื่มฟรี จะถูกยกมาเสิร์ฟเมื่อคุณจ่ายเงินค่าเข้า ¥1500
ซึ่งถือว่าไม่แพงและเราสามารถใช้เวลากับนกฮูกได้ 1 ชั่วโมง
นกฮูกจะยืนอยู่รอบๆกำแพงในห้อง บางตัวเราไม่สามารถจับได้
แต่ถ้าอยากจับ ห้ามใช้ฝ่ามือแต่ต้องใช้หลังมือลูบ
และต้องถอดเครื่องประดับที่อาจทำให้นกฮูกเป็นอันตรายครับผม
เส้นทาง https://goo.gl/maps/M6adSKzPV3Q2
2. Round 1 Stadium อาณาจักรเกมส์ 24 ชั่วโมง
อาณาจักรเกมส์ซึ่งชวนให้นึกถึงสมัยมัธยม ที่นี่ไม่จำกัดอายุเข้า ตั้งอยู่ถนน Dotonbori มีทั้งตู้เกมส์ โต๊ะพลู ปาลูกดอก กีฬาในร่มและกิจกรรมเพื่อความบันเทิงมากมาย มีให้เล่นทุกวัย
3.แช่ออนเซน
ประสบการณ์ที่ทำให้ญี่ปุ่นโด่งดังไปทั่วโลกคือน้ำพุร้อน
หรือที่รู้จักกันดีคือ ออนเซน หากคุณไปญี่ปุ่นแล้วไม่ได้ทำ ถือว่าไปไม่ถึง
อย่างแรกเลยคือ คงไม่รู้สักสบายใจแต่จะต้องเปลือยต่อหน้าคนแปลกหน้า
อย่างไรก็ตามคุณควรสนุกไปกับประสบการณ์ใหม่
หากคุณไม่คุ้นเคยการแช่น้ำที่ร้อนมากเพราะเหมือนรู้สึกหนังจะหลุด
แต่ถ้าคุณผ่านขั้นนี้ไปได้ คุณจะเข้าใจว่าทำไมคนท้องถื่นถึงมาออนเซนบ่อยเท่าที่จะเป็นไปได้
เคล็ดลับ : ลงแช่บ่อที่ร้อนที่สุดก่อนและบ่ออื่นจะง่ายขึ้น
4. ปราสาทโอซาก้า
ปราสาทที่มีชื่อเสียงระดับประเทศ ตัวปราสาทยิ่งใหญ่อลังการที่มีถึง 8 ชั้น
ห้อมล้อมด้วยกำแพงหิน คูน้ำ ไปจนถึงสวนชิโนมารุที่ครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่
5. ไปจับโปเกมอนที่ โปเกมอนเซนเตอร์
ดินแดนโปเกมอน ที่มีแทบจะทุกอย่างเกี่ยวกับโปเกมอน ตั้งพวงกุญแจ ขนม เครื่องเขียน หรือถุงเท้า
6. กินทาโกะยากิ โอโคโนมิยากิ ที่ Dotonbori
เมนูที่น่าลองคือ Acchichi Takoyaki ถือว่าพลาดไม่ได้เลยกับเมนูร้อนๆในหน้าหนาว
ราคา 500 yen
แผนที่ : https://goo.gl/maps/NkjaM1Hukdk
7. ไปกินอาหารสดที่ตลาด Kuromon market
ตลาดที่เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางของคนในพื้นที่
ตลาดขายของสดและอาหารทะเล เช่น แซลมอน ทูน่า ปลาหมึกยักษ์และอื่นๆ
ถ้าหากคุณไม่สะดวกที่จะซื้อกลับไปทำอาหาร ที่นี่ยังมีอาหารพร้อมทานด้วย
เฮียประทับใจที่นี่เป็นพิเศษ ถ้าได้มา Osaka อีก ก็จะมาที่นี่อีกครั้งโดยไม่คิดมากเลย
8. ไปกินราเมน Kamukura Ramen
ห้ามพลาดเมนู Kamukura Ramen น้ำซุปเค็มกำลังพอดี
ราคาถ้วยละ ¥800 คอมโบเซ็ตรวมเครื่องดื่มและเกี๊ยวซ่า ¥1200
9. Isomaru suisan osaka
เป็นปกติที่เมื่อมาญี่ปุ่น ทุกคนต้องหา ซูชิ ราเมน ทานแต่ที่ร้านนี้ไม่เหมือนร้านอื่นๆ ระหว่างที่หาร้านทานอาหารตอนกลางคืน ก็พบเข้ากับร้านนี้ที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง โดยร้านไม่ได้มีคิวแน่นมากนักในตอนกลางคืน เมนูแนะนำ Chicken Soup Ramen และ Kami(miso) Crab หรือ มันปูย่าง (¥500) ถือได้ว่าเป็นเมนูไฮไลท์ของทริปนี้ฮะ ไม่มีใครไม่รู้จักร้านนี้ ถึงจะเปิด 24 ชั่วโมง แต่ว่าช่วงหลัง 00.00 ไป ของจะหมดเยอะมาก แนะนำให้ไปไม่เกิน 23.00 น.
📍 Isomaru Suisan Dotonboriมีทั่วไปในย่านดังๆของญี่ปุ่น
10. ไปซื้ออาหารในร้านสะดวกซื้อ 24 ชั่วโมง
ร้านสะดวกซื้อที่เป็นที่นิยมที่นี่คือ Family Marts และ LAWSON
ถือว่าชนะขาดลอย 7-Eleven โดยเราสามารถเจอในทุกๆ 200 เมตร
แถมอาหารยังอร่อยที่สำคัญ.....ถูกมาก
LAWSON
และรูปนี้คือส่วนหนึ่งของการรีวิว จริงๆแล้วเฮียเขียนบทความ รีวิวขนม จนล้มละลายแล้ว
เข้าไปอ่านดูครับ
11. TOYO SUSHI
ซูชิที่นี่ไม่มีเก้าอี้ให้นั่ง เพราะคอนเซ็ปของร้านคือ ซูชิยืนกิน หรือ TOYO Sushi
เมนูแนะนำตามภาพเลย รับรองละลายในปาก ราคาคุ้มมากเมื่อเทียบกับรสชาติ
เมนูแนะนำตามภาพเลย รับรองละลายในปาก ราคาคุ้มมากเมื่อเทียบกับรสชาติ
และประสบการณ์การกินที่แปลกใหม่
12. MOTO COFFEE
ร้านกาแฟบรรยากสศดีที่ Osaka ร้านนี้มี 3 ชั้น ชั้นใต้ดิน ชั้น 1,2 และโซนเอ้าดอร์
ชั้นที่บรรยากาศดีคือชั้น 1 เพราะเป็นโซนเอ้าดอร์ สามารถจิบกาแฟไปและมองดูวิวแม่น้ำข้างๆ
และถ้าเอ้าดอร์เต็มแนะนำให้ขึ้นไปนั่งชั้น 2 วิวแม่นเำเหมือนกัน แต่แค่เป็นห้องกระจกแค่นั้นเอง
ชั้นที่บรรยากาศดีคือชั้น 1 เพราะเป็นโซนเอ้าดอร์ สามารถจิบกาแฟไปและมองดูวิวแม่น้ำข้างๆ
และถ้าเอ้าดอร์เต็มแนะนำให้ขึ้นไปนั่งชั้น 2 วิวแม่นเำเหมือนกัน แต่แค่เป็นห้องกระจกแค่นั้นเอง
13. ซูชิราคาเริ่มที่คำละ 100 yen
เพชรในตมแบบหามิได้ ร้านนี้ไม่ค่อยมีคนไทยรีวิว แต่เฮียไปเจอโดยบังเอิญ
เพราะเห็นคนยืนต่อแถวเยอะมาก นั่งหน้าบาร์ให้ปั้นให้กินสดๆเลย
เพราะเห็นคนยืนต่อแถวเยอะมาก นั่งหน้าบาร์ให้ปั้นให้กินสดๆเลย
14.Melonpan Ice Cream
ของหวานที่ต้องมากิน ณ Dontonburi " ไอศครีม ขนมปังเมล่อน
15.ICE DOG
"ไม่มากินถือว่าพลาด"ฮอตดอกโอศครีม ราคาแค่ 380 yen
📍ICE DOG
16.Uoshin Umeda
ให้เรียกว่าซูชิหน้าทะลัก จนข้าวหาย ! ร้านนี้ถือเป็นร้านยอดฮิตของคนไทย ที่ได้ไปญี่ปุ่นแล้วต้องแวะร้านนี้ ความพิเศษของซูชิร้านนี้คือ หน้าของข้าวปั้นจะใหญ่มากๆ ถึงมากที่สุด เมื่อเทียบกับที่อื่นๆ
17.Luke’s Lobster
Lobster เนื้อฉ่ำๆ ราคา 1100 yen นักท่องเที่ยวมักจะมาแวะร้านนี้เสมอ เพราะด้วยรสชาติที่คุ้มตามราคา
(ราคาแอบแรง แต่คุ้มที่ได้ลองฮ่ะ)
📍 原宿luke’s LobsterNamba park
ที่นี่เป็นทางเดินเรียบๆและสั้นๆ ล้อมวงด้วยต้นไผ่
ปราศจากตึกแบบในเมืองหรือรถเข็น ซึ่งคุณจะได้สัมผัสธรรมชาติอย่างแท้จริง
19. ไปสวนญี่ปุ่น Tenryuji
ที่นี่เป็นวัดของพุทธศาสนาแบบเซน บรรยากาศแห่งนี้ผสมผสานความเงียบสงบเข้ากับบรรยากาศอันงดงาม คุณอาจนั่งเพลินกว่าครึ่งชัวโมงได้โดยไม่รู้ตัว
20. ไปวัด Kiyomizu
วัดที่ต้องเดินขึ้นบันได้ไปด้วนบนซึ่งอาจทำให้ขาตึงเล็กน้อยแต่
คุ้มค่ามากสำหรับวัดที่เป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของเมืองเกียวโต
สามามองเห็นวิวทั้งเมืองแบบ panorama ได้เลยซึ่งจะเห็นความ
แตกต่างของวัฒนธรรมดั้งเดิมและสมัยใหม่ได้อย่างชัดเจน
21. ไปศาลเจ้าเทพเจ้าจิ้กจอกอินาริ หรือศาลเจ้าแดง
นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มาที่นี่เพื่อปีนเขาและขอเรื่องโชคลาภ
เสาสีดำส้มอันเป็นตำนานสร้างจากการบริจาคของนักธุรกิจและบริษัท
และชื่อของผู้บริจาคจะติดอยู่ตามเสาแต่ละต้น โดยชาวญี่ปุ่น
เชื่อว่าเป็นที่อยู่ของพระเจ้าด้านโชคลาภ จึงไม่แปลกใจที่จะมีเสามากมายถูกสร้างไว้ที่นี่
22. Sega Toriimoto
แม้ว่าหลายคนจะมองว่าเมืองเกียวโตเป็นจุดที่มีความสำคัญทางวัฒนธรรม
ที่นี่ไม่ถูกแตะต้องมาตั้งแต่ปีพ. ศ. 2411
และได้รับการเก็บรักษาไว้ในรูปแบบวินเทจและความสวยงามเต็มรูปแบบ
23. ขี่จักรยานในสวน โดยยืมจากศูนย์ให้เช่า
ศูนย์ให้เช่าที่นี่ มี จักรยานไฟฟ้า คล้ายๆกับรถสกู๊ตเตอร์ มีคันเร่งซึ่งเมื่อเหยียบไม่แรงมากแต่เพิ่มความเร็วได้อย่างตามใจ
24. เจอครอบครัว Bambi ที่สวนกลางเมือง Nara
น้องเหล่านี้เป็นมิตรและเดินเตร่บนทางเท้า
กวางฝูงใหญ่รอนักท่องเที่ยวและส่งสายตาเป็นประกายเพื่อที่จะให้คุณซื้ออาหารให้น้องๆ
25. สักการะพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่วัด Todai-ji
พระพุทธรูปตั้งอยู่กลางวัด Todai-ji มรดกทางวัฒนธรรมที่มีชื่อเสียง
นับเป็นหนึ่งในวัดที่มีชื่อเสียงมากที่สุดและมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของประเทศญี่ปุ่นอย่างมาก
อาคารไม้ของวัดที่นี่ได้รับการยอมรับว่าเป็นอาคารไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
26. เขียนข้อความบอกรักที่ Kasuga Taisha Shrine
มีที่ให้เราคุณจดหมายรัก แล้ววางไว้ที่ สะพานสลักความรัก หากคุณกำลังโสดและเดินข้ามสะพานนี้ หาเวลาไปเขียนคำอธิษฐาน อาจมีคู่กลับไปที่ไทยแน่นอน
\
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น