ญี่ปุ่นครั้งแรก ต้องเตรียมอะไรบ้าง..รีวิวแบบละเอียดยิบ อ่านจบไปญ๊่ปุ่นได้เลย



ไปญี่ปุ่นครั้งแรก ต้องเตรียมอะไรบ้าง ?
รีวิวแบบระเอียดยิบ อ่านเสร็จไปญี่ปุ่นได้เลย!


หลังจากที่คิดได้ว่า "อยากไปญี่ปุ่น"
คำถามต่อมาคือ....
"จะเอาอะไรไปบ้างว้ะ ต้องเตรียมอะไรก่อนดี"
บทความนี้จะเขียนเริ่มจากขั้นตอนแรกที่ควรจะเตรียม

เงินต้องเอาไปเท่าไหร่ ?
 เที่ยวเมืองไหนดี ?
ที่พักจะเหมือนของจริงไหม ต้องดูยังไง ? 
JR Pass ซื้ออันไหนดี ?
ประกันจำเป็นไหม ? คำถามเยอะเกิน ......

สายเฮียเฮียชอบไปเอง ไม่ซื้อทัวร์
เฮียจะอธิบายให้ฟังทีละขั้นตอนแบบกระชับ
 มือใหม่ตั้งใจอ่านดีๆ ค่อยๆทำความเข้าใจ
จะได้ไม่มาอ่านซ้ำอีกรอบนะฮะ

ข้อแรกที่ต้องเตรียมเลยคือ

1. "เงิน" 
ไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่นหรือที่ไหนก็ตาม
 นี่ถือว่าเป็นปัจจัยแรก ที่คุณต้องมี!
เพราะคุณต้องซื้อตั๋วเครื่องบินเพื่อไปญี่ปุ่น
ค่าที่พัก อาหาร เดินทาง ของฝาก และเงินสำรอง
เคล็ดลับการจัดสรรยังไงให้
ไปญี่ปุ่น 9 วัน 8 คืน
กินอาหารไม่ต่ำกว่า 40 มื้อ เล่นสกี
ไปเที่ยว Shirakawago นอนที่เมืองหิมะ
นั่งชินคันเซ็น เข้า Universal
หมดไม่ถึง 30,000 ย้ำ 30,000!
เหมือนที่เฮียเคยทำ (ใครที่อยากรู้เคล็ดลับ ลองไปอ่านวิธีดู )
ปล.เหมาะสำหรับชนชั้นกลางแบบเฮีย
วิธีการอาจจะไม่เหมาะสำหรับทุกคน )

2.Passport/พาสปอร์ต
ก่อนที่เราจะเข้าประเทศญี่ปุ่นได้
เอกสารสำคัญที่สุดเลยนั่นคือ "พาสปอร์ต"
วิธีการเช็คความเรียบร้อยของพาสปอร์ตคือ 
1.วันหมดอายุต้องมากกว่า 6 เดือน
2.คุณต้องมั่นใจว่าหน้าที่ว่างอย่างน้อยต้อง 1 หน้าขึ้นไป
ถ้าทั้งสองข้อท่กล่าวมานี้ เรียบร้อยเชิญข้อถัดไปครับผม

3.ศึกษาข้อมูล ฤดูกาลต่างๆ ของญี่ปุ่น
เหตุผลที่จำเป็นต้องดูฤดูกาลของญี่ปุ่นก่อน เพราะว่า
1.เราจะได้รู้ว่าเราเหมาะกับฤดูไหนของญี่ปุ่น
2.จะได้เจอบรรยากาศที่เราวางแผนไว้ เช่น อยากเจอหิมะ
รีบจองตั๋วเห็นตั๋วถูกดี พอไปจริงดันเจอใบแต่ไม้แดงนี่แย่เลย

ส่วนตัวเฮียเป็นคนขี้ร้อน ชอบอากาศหนาวจัด ก็เลือกที่จะไปสิ้นปี
ญี่ปุ่นมีทั้งหมดอยู่ 4 ฤดู
ฤดูหนาว ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง และใบไม้ผลิ ที่ญี่ปุ่นไปเที่ยวหน้าไหนดี
เฮียเขียนไว้แล้วกดเข้าไปอ่านดูครับผม

4.เตรียมวางแผนให้ชัดว่าจะไปโซนไหนของญี่ปุ่น
มาถึงขั้นตอนนี้ เราเริ่มจะมองภาพญี่ปุ่นออกแล้ว
รู้แล้วว่าฤดูกาลไหนที่น่าเที่ยวบ้าง
ในสเต็ปนี้เฮียจะพาดูว่า
ในแต่ละเมืองของญ๊่ปุ่นมี Highlight อะไรบ้าง
พอดูจนครบแล้ว ให้คุณจดไว้คร่าวๆ
ว่าที่ไหนอยากไปบ้าง เพราะสเต็ปถัดๆไปจะพาให้รู้จักกับ
การวางแผนเที่ยวญี่ปุ่นแบบละเอียด 
และ การสร้าง Map ส่วนตัว



แผนที่ญี่ปุ่น cr.https://bit.ly/2qQ71HR

การวางแผนเที่ยวญี่ปุ่นแบบละเอียด
บทความนี้เขียนไว้โดยนั่งท่อง Pantip
ซึ่งเป็นวิธีการเดียวกับที่ผมทำ

1. Google ครับ จะไปใหน Search หาเลย อย่างญี่ปุ่น 
จะใช้คำว่า "ทัวร์ ญี่ปุ่น" แล้ว List บริษัททัวร์
มันจะขึ้นมาเพียบเลย ทีนี้เราก็เข้าไปดูครับ 
ว่าที่ใหนที่เค้าจะพาไปบ้าง ก็ดูว่ามันคืออะไร 
และเราอยากจะไปมั้ย จดและลอกมันมาเลย

2. ใช้ Google อีกเช่นกัน แต่เป็น Google Map 
วางสถานที่ๆเราจะไปทั้งหมดที่ได้มานั้น ลงไปในแผนที่ 
แล้วก็ดูว่าแต่ละที่มันอยู่ส่วนใหนของญี่ปุ่น ไกลกันมั้ย 
แล้วก็ค่อยๆเริ่มตัดสถานที่ๆมันไกลจากชาวบ้านออก 
หรือถ้าหากต้องการไปที่ๆนั้นจริงๆก็เป็นอีกเรื่องครับ

3. ทีนี้เราจะมาดูว่าแต่ละที่ๆเราจะไปนั้น
ควรใช้เวลาอยู่ในสถานที่นั้นนานแค่ใหน
 มีอะไรน่าสนใจบ้าง ก็เอาสถานที่ๆ หาใน Google
เช่น "tokyo tower รีวิว pantip" จะสังเกตุว่าผมจะเพิ่มคำว่า
 รีวิว pantip ไว้ด้วย เพราะเราจะอ่านรีวิวของคนที่เคยไป
สถานที่นั้นมาแล้ว อ่านให้เยอะครับ
แล้วจะได้ทั้งวิธีเดินทาง แหล่งกิน แหล่งเที่ยวเพิ่มเติม
 แล้วก็จะได้อะไรที่เราไม่เข้าใจด้วย เช่นคำว่า JR PASS

4. เมื่อเจอคำที่เราไม่รู้ว่ามันคืออะไรแล้วเช่น JR PASS
 ก็หาเหมือนเดิมครับ Google JR PASS คือ
มันก็จะได้คำตอบมาก็ต้องอ่านอีกเหมือนกัน

5. ข้อมูลทั่วไปยิบย่อย เช่นสภาพอากาศ
ค่าเงิน ฯลฯ ก็ใช้ Google เช่นกันครับ
cr.https://bit.ly/2qQ71HR

สรุปข้อดีถ้าวางแผนคือ
1. เราจะได้มีจุดมุ่งหมายที่แน่ชัด
ไม่ไปเสียเวลานั่งคิดวันต่อวันว่าจะไปไหน
2.ประหยัดค่าเดินทางได้เป็นเงินหลายบาทเลยทีเดียว
ประหยัดยังไงสเต็ปถัดๆไป

5.จองที่พัก 
เมื่อรู้แล้วว่าจะไปโซนไหน เราก็จัดการหาที่พักเป็นอันดับต่อมา
สิ่งที่ต้องเช็คให้ดีๆก่อนกดจองที่พักที่ญี่ปุ่น! ที่คนมักพลาดกัน 
 (ใครยังไม่รู้จักวิธีดู แนะนำให้อ่านครับ)
ที่พักที่ประเทศญี่ปุ่นหลักๆมีดังนี้ โรงแรม อพาร์ตเมนต์
 บ้านพัก โฮสเทล แคปซูลโฮเทล และ เรียวกัง

6.สร้าง Google Map ของตัวเอง
หลังจากที่เฮียจองที่พัก อันดับต่อมาคือ หาที่เที่ยวที่กินสิครัชชช !
เฮียจะ สร้าง Google map วางแผนท่องเที่ยวที่ญี่ปุ่น
วิธีนี้บอกเลยว่าเวิร์คมาก!!
ถ้าเปรียบกับการเรียนคงเป็นวิชา ส.ป.ช.
ซึ่งเรียนมาแล้วได้ใช้แน่นอน
เมื่อเราไปอยู่ในสถานการณ์จริง
คุณจะเสียเวลามานั่งเสิร์ช จุด A ไป B
จะทำให้เสียเวลา ถ้ามานั่งเสิร์ช 10 ครั้งต่อวันคงเสียเวลาในการเที่ยวมากๆ

7.เตรียมกรอก ตม ญี่ปุ่น
หัวข้อนี้สำคัญมากๆฮะ
เอกสารการเข้าเมืองญี่ปุ่นหรือ กรอกใบตม. ญี่ปุ่น
ที่จำเป็นต้องกรอกแบ่งออกเป็น 2 ใบ คือใบ ตม.
 (Embarkation – Disembarkation Card)
และใบศุลกากร (Custom Declaration)

 ทางที่ดีเฮียแนะนำให้คุณเซฟรูปนี้ไว้ได้เลย
 เพราะเมื่อลูกเรือจะแจกให้บนเครื่องบิน
จะได้รับแจกคนละใบ
ควรกรอกบนเครื่องให้เรียบร้อยก่อนถึงญี่ปุ่น
 จะได้ไม่ต้องเสียเวลายืนกรอกที่สนามบิน
แต่ถ้าหลับเพลิน, ทำหายก็สามารถไปหยิบ
มาเขียนใหม่ได้ที่ก่อนเข้าด่านตรวจคนเข้าเมือง
ในสนามบิน




ใบ ตม. ญี่ปุ่น Version 2016 (ใหม่ล่าสุด) จะมีแค่ใบขาเข้า
(Disembarkation Card) ไม่มีใบขาออก (Embarkation Card)
เหมือน Version เก่า หลังจากผ่าน ตม. ขาเข้าไปแล้วจะถูกเก็บไป

ใบศุลกากร (Customs Declaration)
เป็นใบที่แจกพร้อมกับใบ ตม.
เพื่อตรวจสอบสินค้าที่เรานำเข้าญี่ปุ่น
ว่าเกินสิ่งของต้องห้าม หรือมีปริมาณ
เกินกว่าที่กำหนดหรือเปล่า ใบนี้รายละเอียดค่อนข้างมาก
ต้องกรอกให้ถูกต้อง ในการกรอกนั้นให้กรอกกรุ๊ปละ 1 ใบเท่านั้น
เช่นครอบครัวมาด้วยกัน 4 คน ก็กรอกเพียงใบเดียว
เพื่อนมาด้วยกัน 2 คนก็กรอกเพียงใบเดียว
 ใบศุลกากรจะถูกเก็บหลังจากที่รับกระเป๋าแล้ว
ใบศุลกากรจะมีอยู่ด้วยกัน 2 หน้า ถ้าไม่ได้นำของต้องห้ามเข้ามาก็จะกรอกหน้า A เพียงหน้าเดียว
คำแนะนำการกรอก
1. หมายเลขเที่ยวบิน (ดูในใบตั๋วเครื่องบิน)
2. เมืองที่ขึ้นเครื่องมา เช่น Bangkok
3. วันที่มาถึงญี่ปุ่น
4. ชื่อ
5. ที่อยู่ในญี่ปุ่น ใส่ชื่อโรงแรมที่พักลงไป หากพักมากกว่า 1 โรงแรมให้ใส่โรงแรมที่อยู่นานที่สุด
6. สัญชาติ
7. อาชีพ ควรระบุเป็นอาชีพที่ชัดเจนไปเลยเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกถาม เช่น Engineer, Programmer, Lawyer สำหรับแม่บ้านที่แต่งงานแล้วไม่ได้ทำงานบริษัทให้ใส่ Housewife
นักเรียน – นักศึกษา : Student
ทำกิจการส่วนตัว : self-employed
ไม่ได้ทำงาน : unemployed
8. วันเกิด
9. หมายเลข Passport
10. จำนวนคนที่มาด้วยกัน



  • Adult ผู้ใหญ่
  • Under 20 years old ต่ำกว่า 20 ปี
  • Under 6 years old ต่ำกว่า 6 ปี
11. คุณนำสิ่งของเหล่านี้เข้าญี่ปุ่นมาหรือเปล่า
(1) สินค้าต้องห้าม
(2) สินค้า duty-free เกินจำนวณที่อนุญาต
(3) สินค้าในเชิงพาณิชย์ หรือ ตัวอย่าง
(4) สินค้าที่มีคนต้องการให้นำเข้ามา
ถ้าตอบใช่ (Yes) แม้แต่ข้อเดียว ให้ไปกรอกต่อหน้า B
12. เงินสด, เช็ค เกินกว่า 1,000,000 เยน
13. มีสิ่งของที่จะส่งตามมาทีหลังหรือไม่
14. ยืนยันว่าข้อมูลด้านบนถูกต้อง พร้อมเซ็นชื่อ
ถ้าข้อ 11-13 ตอบ No หมดไม่ต้องกรอกหน้า B















http://www.emagtravel.com/archive/japan-immigration-card.html

8.ซื้อประกันการเดินทางญี่ปุ่น ไว้ข้างกายให้อุ่นใจ
ประกันการเดินทางประเทศญี่ปุ่น จำเป็นไหม ?
บอกเลยว่า จำเป็น! จริงๆค่าซื้อประกัน 400-1,000
แลกกับค่านอนโรงพยาบาล 4-5 คืน พร้อมยารักษาแบบฟรีๆ
คุณว่าคุ้มไหมครับ ?

สรุปเหตุผลที่เราควรซื้อประกันภัยการเดินทาง... 
1.)  อุบัติเหตุไม่เคยเตือนเราล่วงหน้า
 หากเกิดขึ้นแล้วเราอยากได้รับความช่วยเหลือ
 หรือต้องช่วยเหลือตัวเอง
2.) ค่ารักษาพยาบาลในต่างประเทศสูงมาก
3.) เกิดอุบัติเหตุกระเป๋าไม่มากับเครื่องบิน...
4.) สายการบินมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา...
5.) เดินทางกับเด็กยิ่งต้องทำประกันภัยการเดินทาง
 ด้วยธรรมชาติของเด็กจะมีความซุกซนอยู่แล้ว

ซื้อหรือไม่ซื้อแล้วแต่พิจารณาของแต่ละบุคคลเลย
เพราะเราไม่รู้ว่าร่างกายเราจะเป็นอะไรตอนไหนอ่ะ
แต่ถ้าให้แนะนำ บอกเลยว่าทำไว้ดีกว่าไม่ทำครับ

หมายเหตุ : ไม่ว่าจะซื้อกับที่ไหน...
ควรอ่านกรมธรรม์ให้ละเอียดว่าคุ้มครองอะไรบ้าง

9.เตรียม Pocket Wi-Fi หรือ Sim card ดี?
เมื่อแผนทุกอย่างเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง
ขั้นตอนต่อมาที่เฮียทำคือ WI-FI ที่ไว้ใช้ในญี่ปุ่น
เราควรศึกษาว่า รูปแบบอินเตอร์เน็ตแบบไหน
ที่เหมาะสมกับตัวเองที่สุด
ระหว่าง 2 สิ่งนี้ Pocket Wi-Fi หรือ Sim card ...
จะขออธิบายสั้นๆพอสังเขบ

Pocket wi-fi
-เป็นตัวช่วยในการกระจายสัญญาณอินเตอร์เน็ต
 ให้เพื่อนที่ไปด้วย โดยที่ไม่ต้องใช้โทรศัพท์ในการแชร์
-วิธีการการยืม-คืน ค่อนข้างซับซ้อน(ยุ่งยาก)นิดนึง
ทุกบริษัทจะมีเขียนบอกขั้นตอนการยืม-คืนไว้อย่างชัดเจน
 และในระหว่างช่วงยืม คุณต้องรับผิดชอบให้ดี ห้ามหาย ห้ามพัง!
-ค่าใช้จ่ายสูง ถ้าแชร์หลายคนถึงจะคุ้ม
-แบ็ตเตอรีใช้ได้ 8-10 ชั่วโมงโดยทั่วไป

Sim card
 (แนะนำ SIM2Fly ของ AIS  เหมือนผมได้ค่าโฆษณา แต่เปล่าเลย)
-ราคาถูก 399 ใช้ได้ 8 วัน (ค่อนข้างถูก)
-4GB เน็ต Non-Stop
-เมื่อใส่ซิมใหม่ลงไปข้อมูลหลักของเครื่อง
และประวัติการคุย Line อันเก่าไม่หายแน่นอน
-หลงกับเพื่อน ตามหากันได้สบาย
เพราะแต่ละคนมี Sim เป็นของตัวเอง
สามารถเปิด google เปิด line หาทางกลับได้
-สัญญาณค่อนข้างเสถียรดีมาก!
-ใช้เสร็จแล้วทิ้ง ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรทั้งสิ้น
ข้อมูลเพิ่มเติม   : http://www.ais.co.th/roaming/sim2fly/


10.โหลด App จำเป็น เอาไว้เที่ยวญี่ปุ่นได้อย่างสบายบรื๋อ
1.Google map
ความสามารถพิเศษ คือ
- ค้นหาสถานที่ต่างๆ เช่น ร้านอาหาร สถานีรถไฟ และห้างสรรพสินค้า
- ดู Map ส่วนตัวที่เราสร้างไว้ ว่าจุด  A และ จุด B ต้องเดินทางไปยังไง
พร้อมทั้งบอกระยะทางที่ใกล้ที่สุด

2.Google translate
ความสามารถพิเศษ คือ
-วุ้นแปลภาษาที่สะดวกที่สุด

3.Google street view
ความสามารถพิเศษ คือ
-ดูญี่ปุ่นแบบ Street view
-เดินดูแบบ Street view ในขั้นตอนที่เรากำลังพิจารณาจะจองที่พัก
ว่าข้างหน้าที่พัก ทางเข้าที่พัก สิ่งแวดล้อมรอบๆที่พักเป็นยังไง
-เดินดูแบบ Street view เพื่อหาพิกัดที่ไม่มีปักหมุดอยู่บน
 Google map
 รู้ไหมว่าสถานที่เหล่านี้แหละ  แรล์เพลสเลยครับ

4.Hyperdia - App ที่นักท่องเที่ยวที่ไปญ๊่ปุ่นเขาใช้กัน ทุกคน!)
ความสามารถพิเศษ คือ
-ค้นหาเส้นทาง และเวลารถไฟทุกสายในญี่ปุ่น
พร้อมบอกราคาและระยะเวลาโคตรละเอียด
วิธีการดู Hyperdia

5.Navitime for japan travel - App นี้ครอบคลุมเกือบทุกอย่าง
ความสามารถพิเศษ คือ
-ค้นหาร้านอาหาร
-ค้นหาเส้นทางรถไฟ & รถบัสทุกสายในญี่ปุ่น
-ค้นหาที่แลกเปลี่ยนเงิน
-ค้นหา Free wi-fi
-ค้นหาตู้ ATM

6.Gurunavi japan restaurant -
ความสามารถพิเศษ คือ
-ค้นหาร้านอาหารโดยเฉพาะ
-ร้านอร่อยที่นักท่องเที่ยวแนะนำ
-รับรองรับภาษาอังกฤษ

เมื่อ App พร้อมแล้ว เชิญตรวสอบด่านถัดไปครับ  
สำหรับคนที่มีโรคประจำตัว หรือมียาสามัญประจำตัวโดยเฉพาะ ....

11.ตรวจสอบว่ายาประจำตัวของคุณ ถูกกฎหมายตามที่ประเทศญี่ปุ่นกำหนดไว้ไหม
รายชื่อยาต้องห้ามเข้าประเทศญี่ปุ่น



 เนื่องจากยาแก้ปวดชนิดนั้นเป็นยาที่รัฐบาลญี่ปุ่นห้ามนำเข้ามาประเทศ เพราะเป็นยาที่มีส่วนผสมต้องห้ามภายใต้กฎหมายของญี่ปุ่น
สถานทูตฯ ขอแจ้งตัวอย่างรายชื่อยาที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงผิดกฎหมายและห้ามนำเข้ามาในญี่ปุ่น ดังนี้

1.TYLENOL COLD
2.NYQUIL
3.NYQUIL LIQUICAPS
4.ACTIFED
5.SUDAFED
6.ADVIL COLD & SINUS
7.DRISTAN COLD/ “NO DROWSINESS”
8.DRISTAN SINUS
9.DRIXORAL SINUS
10.VICKS INHALER
11.LOMOTIL

*อ้างอิงรายชื่อยาจากเว็บไซต์สถานกงสุลใหญ่ญี่ปุ่นประจำนครซีแอทเทิล

อ่านจบแล้ว รออะไรอยู่ละครับ จัดกระเป๋าาา!



ชีวิตจะเริ่มขึ้น 
.....
เมื่อคุณกล้าที่จะก้าวออกจากพื้นที่ปลอดภัย


_______________________________________________
    พรีออเดอร์ญี่ปุ่น ฝากซื้อสินค้าจากญี่ปุ่น  ทั้ง Amazonco และเว็บขายสินค้าทั่วไปของญี่ปุ่นทุกอย่าง แบบ เคลียร์ภาษี หายห่วง ;) ... 

พร้อมทั้งเฮียมีบทความรวม รีวิวญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็น ที่เที่ยวญี่ปุ่น ของฝากจากญี่ปุ่น และ ร้านอาหารญี่ปุ่น เด็ดๆ เหมาะสำหรับคนที่จะไป เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก และช่วงเวลาตั๋วถูก  จนสามารถไปเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเองได้แบบสบายตูด ^^






Telephone : 087 358 6162

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม